ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แจกสูตรเด็ด! ลดพุงใน 7 วัน เสกตัวเองเป็นคนใหม่

ปัญหาเรื่องหน้าท้อง หรือ “พุง” เป็นเรื่องที่ชวนให้หนักใจ พร้อมกับกวนใจพาลให้หนุ่มๆสาวๆทั้งหลายเสียความมั่นใจมาช้านาน เพราะส่วนใหญ่ก็คงอยากมีหน้าท้องที่แบนเนียนราบเรียบชวนมองกันทั้งนั้น อีกทั้งที่สำคัญคือมันบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดียังไงล่ะ

แต่ถ้าอยากลดหน้าท้องให้ได้ภายใน 7 วัน จริงๆ ถึงฟังดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่หากเคร่งครัดกับตัวเองและทำตามวิธีที่จะแนะนำดังต่อไปนี้ ความปารถนาที่จะมีหน้าท้องที่แบนราบเข้ารูป ก็จะไม่เป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไป
1. การควบคุมอาหาร เริ่มต้นจากการงดขนมขบเคี้ยว อาหารที่มีไขมัน และอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมากๆอย่างเด็ดขาด โดยคุณสาวๆอาจเริ่มการควบคุมอาหารโดยใช้เมนูดังต่อไปนี้ เป็นพื้นฐานสำหรับการลดน้ำหนักใน 7 วัน

วันที่ 1 
เช้า – น้ำผลไม้คั้น หรือ โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน – ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น – สลัดผัก
วันที่ 2 
เช้า – น้ำผลไม้คั้น หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน – ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น – โยเกิร์ต 1 ถ้วย
วันที่ 3
เช้า – กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย หรือ โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน – เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม (เนื้อ, หมู)
เย็น – สับปะรด 1 ชิ้น
วันที่ 4
เช้า – น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟและขนมปัง 1 แผ่น
กลางวัน – สลัดผักและไก่ย่าง 1 ชิ้น
เย็น – โยเกิร์ต 1 ถ้วย
วันที่ 5
เช้า – น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน – ส้มตำและไก่ย่าง 1 ชิ้น
เย็น – สลัดผัก
วันที่ 6
เช้า – น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน – ปลานึ่ง หรือ ปลาเผาไม่จำกัด
เย็น – นมสด 1 แก้ว
วันที่ 7
เช้า – ข้าว 1 ทัพพี และเนื้อ 1 ชิ้น หรือไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน – เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม (เนื้อ, หมู)
เย็น – สับปะรด 1 ชิ้น

หลายๆ คนที่ได้ลองสูตรนี้แล้ว ในหนึ่งสัปดาห์น้ำหนักก็หายลงไปหลายกิโลเลยทีเดียว สำหรับใครที่ยังไม่เคยลอง ช่วงแรกๆ ก็อาจจะลำบากหน่อย แต่เชื่อว่ามันจะผ่านไปได้ ส่วนข้อควรระวังในการควบคุมอาหารสูตรนี้ก็มีอยู่นะ เหมาะสำหรับคนลดหน้าท้องแบบจริงจัง ถ้าหากรู้สึกหิว หรืออ่อนเพลียให้ดื่มน้ำเปล่าสะอาดมากๆ จะช่วยบรรเทาอาการหิวได้มากขึ้น


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อยากหัดเต้นเอง ต้องเริ่มยังไง?

คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่เคยดูคลิปเต้นในยูทูป แล้วอยากเต้นได้แบบนั้นบ้าง.. ครั้นจะออกไปเรียนเต้นตามสตูดิโอสอนหรือสถาบันต่างๆ ก็ไม่รู้จะไปที่ไหน อยู่ไกลบ้าง ทุนไม่พอบ้าง รู้สึกเขินอาย กลัวเต้นไม่ทันเพื่อนในคลาส และอีกสารพัดเหตุผล ไม่ต้องท้อไปนะคะ นักเต้นเก่งๆส่วนใหญ่ล้วนเริ่มฝึกด้วยตัวเองทั้งนั้น ลองลุกขึ้นเดิน ก้าวแรกดู แล้วจะรู้ว่าก้าวต่อๆไปนั้นไม่ยากเลย และวันนี้เรามี 5 เทคนิควิธีการเดินก้าวแรก มาแนะนำค่ะ 1. จริงจังแค่ไหน ถามใจดู อันดับแรก "ใจ" ต้องมาก่อน ตัวคุณเองจะรู้ดีว่า คุณจริงจังกับการเต้นแค่ไหน เป้าหมายคืออะไร  เช่น อยากเต้นให้ได้แบบศิลปินคนโปรด อยากเก่งเหมือนคนนั้น อยากหัดไว้เป็นสกิลติดตัว หรือเพื่อไปโชว์/แข่ง ในงานต่างๆ เต้นเพื่อออกกำลังกาย ลดหุ่น บางคนอยากเต้นเพราะท่านี้เพลงนี้กำลังฮิต หรือแค่อยากเต้นสนุกๆ ฯลฯ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร การมีแรงผลักดันจากข้างในคือสิ่งสำคัญในการพัฒนาตัวเองต่อไปได้ แน่นอนว่าหากคุณรักที่จะเต้นจริงๆ คุณย่อมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เต้น และเต้นได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อเลย พูดง่ายๆคือ มีใจรักนั่นแหละ 2. ปรับทัศนคติ อันนี้ไม่ต้อง

เทคนิคเต้น Cover Dance ให้เป๊ะปังอลังเวอร์

ในวินาทีนี้หากพูดถึง Cover Dance น้อยคนมากที่จะไม่รู้จัก  เหตุผลที่ทำให้ Cover Dance เป็นที่นิยมโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น อาจเป็นเพราะความนิยมชมชอบในตัวศิลปิน เพลง และท่าเต้นนั่นเอง Cover Dance คือการเต้นตามต้นฉบับ ที่คนไม่มีพื้นฐานก็สามารถเต้นตามได้ แต่จะเต้นยังไงให้เป๊ะ เข้าถึงอารมณ์ได้เหมือนศิลปินนั้นต้องอาศัยทักษะและการฝึกฝนพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งก็คงไม่ยากจนเกินไปหากทำตามเทคนิคดังต่อไปนี้ ส่วนใหญ่แล้วการ Cover Dance เราต้องระบุให้ชัดเจนว่าเราจะเต้นแบบใครหรือแดนเซอร์คนใด เพราะจะส่งผลต่อ Blocking(ระยะห่างของตำแหน่งการยืน)  แต่ถ้าฝึกเต้นคนเดียวก็สามารถทำได้เช่นกัน สิ่งที่จะต้องทำเมื่ออยากฝึกเต้น Cover คือ 1. ฟังเพลง :    เลือกเพลงที่อยากจะเต้นหรือเพลงที่ชอบ แล้วฟังให้เข้าหู แบบที่สามารถจำแต่ละท่อนได้ ซึมซับและทำความเข้าใจกับเพลงว่าเพลงสื่ออะไร เพื่อให้เราสามารถสื่ออารมณ์ผ่านการเต้นได้ อันที่จริงถ้าพูดถึงการเต้น Cover เราสามารถเต้นตามศิลปินได้ทุกชาติทุกภาษา แต่คนไทยส่วนใหญ่จะนึกถึงเพลง K-Pop ด้วยกระแสเกาหลีที่มีอิทธิพลต่อคนไทยมานานนั่นเอง 2. จับจังหวะ :  เมื่อเราท

การยืดกล้ามเนื้อ(Stretching) ก่อนเต้น/ออกกำลังกาย

ทำไมต้องยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย? การยืดกล้ามเนื้อ (Stretching) เป็นการเตรียมความพร้อมของร่างกายในส่วนของข้อต่อ เอ็น กล้ามเนื้อ ให้พร้อมสำหรับการออกกำลังกาย โดยเฉพาะข้อต่อและเอ็นที่มีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่จะช่วยให้การเคลื่อนไหวในมุมต่างๆเป็นไปได้อย่างราบรื่นและลดโอกาสที่จะเกิดอาการบาดเจ็บขณะเล่นกีฬาได้ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อจะช่วยเพิ่มมุมของการเคลื่อนไหว ให้สามารถเคลื่อนไหวได้ในวงกว้างมากขึ้น (Range of Motion) เมื่อการเคลื่อนไหวสามารถทำได้ในมุมกว้างมากขึ้น การเคลื่อนไหวก็มีประสิทธิภาพและโอกาสบาดเจ็บก็จะลดลง ควรอบอุ่นร่างกาย หรือ ยืดกล้ามเนื้อก่อน? หลายคนมักเกิดการสับสนว่าควรจะเริ่มต้นด้วยสิ่งใดก่อน เพราะสองสิ่งนี้มักจะมาควบคู่กับอยู่เสมอๆ โดยทั่วไปแล้วจะใช้การอบอุ่นร่างกายก่อนการยืดกล้ามเนื้อ การอบอุ่นร่างกายควรเริ่มต้นด้วยการวิ่งเหยาะๆ หรือเคลื่อนไหวคล้ายกิจกรรมที่จะทำการออกกำลังกาย เพื่อค่อยๆ ให้หัวใจปรับอัตราการเต้นให้สูงขึ้นทีละนิด มีเลือดไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อมากขึ้น หลังจากนั้นจึงเริ่มเพิ่มแรงในการเคลื่อนไหวท่าที่จะออกกำลังกาย ประมาณ 5-10 นาที เช่น จะออกกำลังก